ธนารักษ์ เล็งเอาผิดทางแพ่ง “มูลนิธิชยันโต” บุกรุกที่ย้อนหลัง 14 ปี

ธนารักษ์ เล็งเอาผิดทางแพ่ง “มูลนิธิชยันโต” บุกรุกที่ย้อนหลัง 14 ปี

กรมธนารักษ์ เล็งเอาผิดทางแพ่ง “มูลนิธิชยันโต” เรียกค่าเสียหายบุกรุกย้อนหลังตั้งแต่ปี’51 ถึงปัจจุบัน พร้อมเร่งถกกองทัพบก หาทางดำเนินคดีทางอาญา ย้ำต้องทำให้รอบคอบเพราะมีชาวบ้านใกล้เคียงบุกรุกด้วย

วันที่ 23 มีนาคม 2565 นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบที่ราชพัสดุภายในธรรมสถานวิโมกสิวาลัย หรือมูลนิธิ ชยันโตโพธิธรรม รังษี ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยยืนยันว่า กรมธนารักษ์ จะพิจารณาเอาผิดกับธรรมสถานวิโมกสิวาลัย เพราะมีความผิดชัดเจนในการเข้าไปใช้ประโยชน์พื้นที่ราชพัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต

ซึ่งเบื้องต้นจะต้องมีการเรียกค่าเสียหายย้อนหลัง นับตั้งแต่เริ่มมีการบุกรุกปี 51 มาถึงปัจจุบัน หรือย้อนหลังประมาณ 14 ปี แต่จะจำนวนเท่าไรต้องขอดูรายละเอียดก่อนซึ่งเป็นเรื่องของทางแพ่ง

ส่วนการฟ้องร้องทางอาญา จะต้องหารือร่วมกับกองทัพบก ในฐานะผู้ครอบครองพื้นที่ก่อน เนื่องจากในพื้นที่ใกล้เคียงมีชาวบ้านเข้ามาบุกรุกใช้เป็นที่อยู่อาศัย ที่ทำกินด้วย หากไปแจ้งความกับธรรมสถานวิโมกสิวาลัยเพียงรายเดียว อาจกลายเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่หากเลือกฟ้องทั้งหมดก็ทำให้ชาวบ้านที่เหลือต้องเดือดร้อน

“การทำงานของหน่วยงานรัฐ จะต้องพิจารณารอบคอบ ดูผลกระทบรอบด้าน ไม่มีการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งหลังจากนี้กรมจะมีการประชุมร่วม เพื่อหาข้อยุติโดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ”

ทั้งนี้ ตามความผิดทางคดีอาญาในข้อหาการบุกรุก จะต้องพิจารณาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ซึ่งมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากการบุกรุกเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 51 ก่อนที่พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ ฉบับปี 62 จะบังคับใช้

นายประภาศ กล่าวต่อว่า เท่าที่หารือกับกองพลพัฒนาที่ 1 ขอชี้แจงว่าไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย โดยก่อนหน้านี้ได้เข้ามาตรวจสอบ และได้รับแจ้งว่ากำลังขอจัดตั้งเป็นวัดเพื่อเข้าใช้พื้นที่อยู่ ซึ่งทางสำนักงานพระพุทธศาสนา ก็แจ้งขอจัดตั้งเป็นวัดจริง

แต่ต่อมาไม่สามารถจัดตั้งเป็นวัดได้ เพราะติดเงื่อนไขมีวัดอื่นในรัศมี 5 กม. จนกระทั่งล่าสุดสำนักงานพระพุทธฯ เพิ่งแจ้งยกเลิกการขอใช้พื้นที่มาเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมาหลังเกิดเรื่อง และถึงขณะนี้ทางมูลนิธิก็ยังไม่เข้าขอเช่าพื้นที่เพื่อตั้งธรรมสถานมาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ตามสิทธิทางมูลนิธิฯ สามารถขอใช้พื้นที่ราชพัสดุได้ แต่การขอมา ไม่ได้หมายความว่าจะมีสิทธิเข้าไปใช้ได้ทันที จะต้องพิจารณาความเหมาะสม

อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นเขตหวงห้ามทางทหาร ซึ่งจะต้องให้กองทัพฯ ในฐานะหน่วยงานครอบครอง พิจารณาร่วมกับกรมธนารักษ์ ซึ่งตามขั้นตอนทางกฎหมาย หากตัดสินแล้วไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ มูลนิธิฯจะต้องส่งมอบคืนพื้นที่กลับมา แต่หากอนุญาตให้ใช้พื้นที่ได้ ก็จะต้องจัดทำสัญญาเช่าตามระเบียบอย่างถูกต้อง แต่ความผิดเก่าที่เคยบุกรุกยังคงอยู่ ไม่สามารถหักล้างได้

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance/